ภูมิแพ้: โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง (ใช้ FUD)

โรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูก น้ำตาไหล คันรอบดวงตา ระคายเคืองทั่วใบหน้า มีผดผื่นคันแดงตามผิวหนัง ผิวหนังลอกอักเสบ หรืออาจแพ้รุนแรงถึงขั้นท้องร่วง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกหลังจากที่ได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะมีอาการแพ้ต่อสารแตกต่างกัน ส่วนอาการแพ้ต่อสารที่พบมากในปัจจุบัน ได้แก่ ภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้ผิวหนัง ภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้แมลงสัตว์กัดต่อย

ภูมิแพ้เป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายคนเราที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแปลกปลอมภายนอก เราเรียกสิ่งแปลกปลอมนี้ว่า สารก่อภูมิแพ้ (allergen) ส่วนใหญ่แล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อร่างกายของคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้แล้ว ถ้าสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ก็จะทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นได้ ซึ่งอาจมีอาการหอบ จมูกอักเสบ ผิวหนังอักเสบ มีผื่นคัน กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ เป็นต้น

โรคภูมิแพ้เกิดจากอะไร

กรรมพันธุ์ หากในครอบครัวมีคนเป็นภูมิแพ้ 2 ใน 4 คน นั่นหมายความว่า อัตราเสี่ยงของรุ่นต่อไปก็จะมีเพิ่มขึ้น ยิ่งหากพ่อหรือแม่เป็น ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นไปด้วย โดยมีการค้นพบว่า หากพ่อหรือแม่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ด้วยเช่นกัน โดยมีโอกาสเป็นประมาณ 30 - 50% แต่หากเป็นโรคภูมิแพ้กันทั้งพ่อและแม่ ลูกที่เกิดมาก็จะมีโอกาสเป็นมากขึ้นประมาณ 50 - 70% ในขณะที่เด็กที่พ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้เลยจะมีโอกาสเป็นอยู่ที่ 10% เท่านั้น และเด็กผู้ชายจะเป็นมากกว่าเด็กผู้หญิง

สิ่งแวดล้อม สารก่อภูมิแพ้มักเกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนเราเป็นภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการสูดดม การรับประทาน หรือการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น การทำงานบ้านที่ต้องเจอกับฝุ่น การออกไปนอกบ้านที่ต้องเจอกับควันและมลพิษ การแพ้ขนแมวหรือขนสุนัข ล้วนแต่เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น ซึ่งสารก่อภูมิแพ้บางอย่างก็สังเกตได้ง่าย เช่น อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเลที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่มีคนแพ้มากที่สุด คนที่แพ้อาจมีผื่นลมพิษขึ้นทันทีภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น นอกจากสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นตัวกระตุ้นแล้ว ยังอาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วยที่ทำให้อาการภูมิกำเริบหรือเป็นรุนแรงขึ้นได้ เช่น อากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป อากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ความเครียด เป็นต้น

โรคภูมิแพ้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
โดยแบ่งตามอวัยวะที่เป็น ได้แก่ โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง โรคภูมิแพ้ประเภทแพ้อาหาร และโรคภูมิแพ้ที่มีอาการผสมกันในหลายระบบของร่างกาย ซึ่งรุนแรงและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

1. ภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจหรือโรคแพ้อากาศ
ภูมิแพ้ชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับจมูก เพราะจมูกเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของระบบทางเดินหายใจ ที่ช่วยกรองฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอม และช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายก่อนที่สิ่งต่างๆ จะผ่านลงไปสู่หลอดลม ซึ่งภายในจมูกจะมีโพรงจมูกและเยื่อบุโพรงจมูก ซึ่งเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เป็นระยะเวลายาวนานจะเกิดการอักเสบ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดนี้จึงมีการตอบสนองต่อกลิ่นหรืออากาศที่หายใจเข้าไปค่อนข้างสูงและไวกว่าคนปกติ โดยเฉพาะเกสรดอกไม้ ฝุ่น ไรฝุ่น ควันต่างๆ และขนสัตว์

อาการของโรค
จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล แต่มีน้ำมูกสีใส จามบ่อย คันในจมูก และมีเสมหะไหลลงคอ โดยไม่มีไข้ร่วมด้วย บางครั้งอาจมีอาการคันตา และมักจะมีอาการเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ อาการของโรคจะเป็นหนักและบ่อยขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ช่วงเวลาที่มักจะทำให้เกิดโรคได้ง่ายคือช่วงเช้าและกลางคืน ซึ่งจะเป็นอยู่ประมาณ 2 - 3 ชม. แล้วอาการก็จะดีขึ้น นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคแทรกซ้อน อย่างโรคไซนัสและนอนกรนด้วย

การดูแลรักษา
สำหรับการรักษาในเด็กทารก ควรให้ดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในนมแม่มีสารภูมิคุ้มกันสูงและช่วยต้านทานโรคภูมิแพ้ ส่วนผู้ใหญ่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้ครบทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอประมาณ 3 - 4 วัน/สัปดาห์ และควรดูแลห้องนอนไม่ให้สกปรก หมั่นซักและนำเครื่องนอนออกตากแดดเพื่อฆ่าตัวไรฝุ่น โดยซักด้วยน้ำร้อน 60 องศาเซลเซียส นาน 15-20 นาที เพื่อฆ่าตัวไรฝุ่น และนำไปตากแดดให้แห้ง ไม่ควรใช้หมอนหรือที่นอนที่ทำจากนุ่น ไม่ใช้พรม เลือกใช้ผ้าใยสังเคราะห์พิเศษคลุมที่นอนและหมอนเพื่อป้องกันไรฝุ่น หรือเลือกใช้เครื่องกรองอากาศหากอยู่ในห้องแอร์ และงดการสูบบุหรี่ในบ้าน หากต้องการใช้ยา ให้ใช้ยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้แพ้แบบรับประทาน ยาลดจมูกบวม แก้คัดจมูก ส่วนใครที่มีอาการหอบหืดก็ใช้ยาพ่นจมูกเป็นประจำเพื่อป้องกัน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
https://www.honestdocs.co/4-types-of-allergies-and-treatments

อาหารเสริมช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้จริงหรือ?
ปัจจุบันมีอาหารเสริมหลายชนิดที่อ้างสรรพคุณในการบรรเทาหรือป้องกันโรคภูมิแพ้ ใครก็ตามที่อยากลองใช้ดูควรทำความเข้าใจด้วยว่าในการเลือกซื้ออาหารเสริมนั้น ไม่ควรเชื่อคำโฆษณาที่เกินจริง ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ และศึกษาถึงผลลัพธ์ที่จะได้จากผลิตภัณฑ์นั้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ขณะรับประทานควรจะสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย

ตัวอย่างอาหารเสริมที่มีวางขายสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ มีดังนี้

น้ำมันจมูกข้าวสาลี (Wheatgerm oil) ทำจากจมูกข้าวสาลีที่สดใหม่ นำมาผ่านกระบวนการสกัดด้วยความเย็น มีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัวและวิตามินหลายชนิดที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดอาการแพ้บริเวณโพรงจมูก แต่ห้ามใช้ขณะเป็นหวัด

สารคาเทซิน
เป็นสารโพลีฟินอลส์ชนิดหนึ่งที่ได้จากชาเขียว ไม่มีกาแฟอีน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้ดี จากผลการทดลองพบว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้

เอ็นไซม์บรอมีเลน (Bromelain) เป็นส่วนประกอบที่ได้จากรากของต้นสับปะรด มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการอักเสบและช่วยย่อยโปรตีน ช่วยบรรเทาอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน

น้ำมันโบราจ (Borage oil)
ได้จากเมล็ดของต้นโบราจในกระบวนการสกัดด้วยความเย็น มีกรดแกมมาไลโนเลนิก (GLA-gamma-linolenic acid) ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง คงความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และช่วยให้สภาพร่างกายดีขึ้น

มีส่วนประกอบของสารโปรยานิดินส์ (Procyanidins) ที่ช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระส่วนเกินในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการแพ้ของร่างกายและผิวหนัง
แม้ว่าอาหารเสริมอาจช่วยปรับสภาพร่างกายได้ แต่ก็ไม่มีอาหารเสริมชนิดใดหรือยี่ห้อใดสามารถทดแทนสารอาหารที่ได้รับจากการกินอาหารในแต่ละมื้อได้ หากอาการภูมิแพ้กำเริบจึงควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องเป็นดีที่สุด

หากต้องการหาผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารที่จำเป็น สำหรับ ภูมิแพ้: โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ลองแวะเข้าไปศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ FUD เพิ่มเติมได้เลยนะครับ


ถ้าคุณชอบ ช่วยกด Like ถ้าคุณคิดว่าใช่ ช่วยกด Share กับ Line it ให้หน่อย นะคะ!

 

สร้างโดย : Admin  เมื่อวันที่ : 3/2/2562
แก้ไขล่าสุดโดย : Admin
เมื่อวันที่ : 21/12/2562 19:46:55
จำนวนผู้เข้าชม 4363 ครั้ง

Related Articles


ถ้าคุณชอบ ช่วยกด Like ถ้าคุณคิดว่าใช่ ช่วยกด Share

 

Powered by Aladin Plaza